“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศนั้น ถือเป็นส่วนสำคัญในการช่วยประคองเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งทำให้การเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาเที่ยวไทยไม่สามารถทำได้ ซึ่งในปี 2563 สภาพัฒน์เคยคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวก่อนเกิดโควิด-19 ว่าจะมีจำนวน 41 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 4% แต่หลังเกิดโควิด-19 ปรากฏว่าครึ่งปีแรกมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเพียง 6 ล้านคนเท่านั้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะ สศค.กำลังเตรียมรายละเอียดโครงการ “คนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศวงเงิน 45,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการแจกเงินให้คนละ 3,000 บาท ให้กับประชาชน 15 ล้านคน ซื้อของกับผู้ค้ารายย่อย
โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ต้องจ่ายเงินค่าสินค้าครึ่งหนึ่ง และรัฐบาลจะช่วยจ่ายอีกครึ่งของการใช้เงิน คาดว่าจะเริ่มโครงการได้เดือน ต.ค.นี้
ส่วนมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ ประกอบด้วย โครงการกำลังใจ โดยการให้เงินอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมระดับตำบลคนละ 2,000 บาท เพื่อท่องเที่ยวดูงานในประเทศ รวม 1.2 ล้านคน ใช้งบประมาณ 2,400 ล้านบาท และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยรัฐออกค่าเดินทางให้ 40% ไม่เกินคนละ 1,000 บาท และค่าที่พักออกให้ 40% ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คน สูงสุดไม่เกิน 10 คืน และให้คูปองส่วนลด (e-voucher) วันธรรมดา (จันทร์-พฤหัสบดี) 900 บาทต่อคืน วันศุกร์-อาทิตย์ คนละ 600 บาทต่อคืน ใช้งบประมาณ 20,000 ล้านบาท รวมงบทั้งโครงการ 22,400 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้จากภาคการท่องเที่ยวทั้งหมด คิดเป็น 18% ของจีดีพี โดยมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12% คิดเป็น 2 ล้านล้านบาท และมาจากคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ 6% คิดเป็น 1 ล้านล้านบาท.
September 06, 2020 at 04:01PM
https://ift.tt/2GCwnnt
สศค.เดินหน้าดูแลเศรษฐกิจต่อเนื่อง - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2TVOisZ
Home To Blog
No comments:
Post a Comment