ผ่านไปแล้ว 7 สนามสำหรับศึกฟอร์มูล่าวันประจำฤดูกาล 2020 หลายคนคงจะติดตามและคาดไม่ถึงกับผลงานของ "ม้าลำพอง" เฟอร์รารี่กับผลงานในซีซั่นนี้
แฟนๆมอเตอร์สปอร์ตทั้งไทยและเทศ คงจะตกใจและไม่อยากจะคิดว่าผลงานของเฟอร์รารี่ในปีนี้ จะถึงจุดตกต่ำที่สุดไปแล้วหรือไม่ 7 สนามที่ผ่านมาทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังเอาเสียจริงโดยอยู่อันดับที่ 5 ในตารางคะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต
และในสนามล่าสุดนี้ทั้งเซบาสเตียน เวทเทล และชาร์ลส์ เลอแคร์ ไม่สามารถทำผลงานขึ้นไปอยู่ท็อป 10 ได้ในสนามล่าสุดโดยจบอันดับ 13 และ 14 ตามลำดับ
นับเป็นผลงานสุดอัปยศเลยก็ว่าของทีมม้าลำพองในเวลานี้ เป็นสิ่งที่ทีมงาน มัตเตีย บิน็อตโต้ ที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อให้ทีมกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง
ขนาด "โตโต้ วูฟส์" ทีมบอสของเมอร์เซเดส เอเอ็มจี ยังไม่เชื่อในาายตาตนเองว่า เฟอร์รารี่ จะฟอร์มตกต่ำอย่างมากมายถึงขนาดนี้ มันไม่ดีสำหรับวงการฟอร์มูล่าวัน และไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับการแข่งขันในแถวหน้าอีกด้วย
แน่นอนว่าผมรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมากกับกลุ่ม Tifosi หรือ สาวกม้าลำพองพันธุ์แท้ ทุกคน ที่ทีมรักต้องมามีฟอร์มตกต่ำอย่างมากมายถึงขนาดนี้
ในท้ายที่สุดแล้วเราทุกคนล้วนต้องตั้งคำถามถึงลำดับความสำคัญ ที่พวกเขากำหนดไว้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา และการขาดประสิทธิภาพดังกล่าวนั้นมันมาจากไหนกันแน่ โดยรวมแล้วแฟน ๆ รวมถึงบุคลากรในทีมเฟอร์รารี่ต่างไม่สมควรต้องมาเจอกับผลลัพธ์อันย่ำแย่เช่นนี้
มันอาจไม่ถูกนักที่ผมต้องมาพูดถึงเรื่องลำดับความสำคัญของเฟอร์รารี่ เพราะมันจะกลายเป็นการลากทุกคนในที่แห่งนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งหมด แต่มันอาจเกิดจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดภายในทีมจากสมาชิกบางคนที่โรงงานมาราเนลโล่
ปัญหาของม้าลำพองในสายตาของแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตก็คือ ทีมงานต่างหรือ Team Stenegy ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการกลยุทธ์ให้กับนักขับของแต่ละคนว่าจะกำหนดเป็นอย่างไรเพื่อให้ทีมทำผลงานได้ดีที่สุด
สิ่งที่เรารอคอยก็คือ การกลับมายืนจุดที่เคยอยู่นั่นก็คือ แชมป์โลก ซึ่งเฟอร์รารี่ห่างจากคำนี้มาถึง 12 ปีแล้ว นับตั้งแต่ คิมี่ ไรโคเน่น เป็นรายล่าสุดที่คว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2007
ต่อมาในฟิลิปเป้ มาสซ่าเป็นรายต่อมาที่เกือบจะผงาดแชมป์โลกแต่ต้องเสียท่าให้กับ ลูอิส แฮมิลตัน จากแม็คลาเรน เมอร์เซเดส อย่างน่าเจ็บปวดในปี 2008
หลังจากนั้นเฟอร์รารี่เกาะกลุ่มท็อป 3 มาโดยตลอด แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการอย่างมาก ทีมได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทีมกลับมาเป็นแชมป์โลกให้ได้ ด้วยการถึงเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ที่เคยคว้าแชมป์โลกกับเรโนลต์ 2 สมัย ในปี 2011
ในปี 2010-2013 เป็นปีที่ดีสำหรับเฟอร์รารี่เช่นกัน แต่ก็เสียท่าให้กับเร้ดบูลล์ ซึ่งขณะนั้นเซบาสเตียน เวทเทล นับขับดาวรุ่งชาวเยอรมันก้าวขึ้นมาแชมป์โลกได้ถึง 4 สมัยติดต่อกัน ปาดหน้าเฟอร์นันโดอลอนโซ่ จากเฟอร์รารี่ พลาดแชมป์โลกไปอย่างน่าเจ็บปวดในปี 2012
เข้าสู่ปี 2014 ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในฟอร์มูล่าวัน จากการเปลี่ยนเครื่องยนต์จาก 2.4 ลิตร วี 8 เทอร์โบ มาเป็น เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร วี 6 ไฮบริด เทอร์โบชาร์จเจอร์ ทำให้ยอดยทีมอย่างเมอร์เซเดสสามารถทำผลงานได้ดีและคว้าแชมป์โลกไปถึง 6 สมัยติตต่อกัน
ในส่วนของแฟนๆ ทีมก็เข้าใจดี พวกเขารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับแฟนๆ และพวกเขาต้องเป็นกลุ่มแรกที่ยอมรับเรื่องนี้ ความจริงก็คือรถของพวกเขาสูญเสียกำลัง เหมือนกับผู้ผลิตเครื่องยนต์ทุกรายที่เคยเสีย แต่พวกเขาเสียมากกว่าคนอื่น ปีที่แล้วเครื่องยนต์สามารถช่วยปกปิดข้อจำกัดของรถได้ส่วนหนึ่ง
ขณะที่คาร์ลอส ไซนน์ นักขับชาวสเปน ซึ่งปัจจุบันอยู่แม็คลาเรน ที่กำลังจะเป็นสมาชิกแต่มาปีนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว ข้อจำกัดของรถจึงชัดขึ้นมา ซึ่งพวกเขาต้องปรับปรุงให้ได้ในสนามต่อๆไป ปีนี้เรามีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์กับตัวรถ SF1000 ที่ดรอปลงไปมาก
ดังนั้นเขามั่นใจว่าทีมงานเฟอร์รารี่กำลังเร่งแก้ไขเต็มที่ และหวังว่าเมื่อเขาย้ายไปอยู่ด้วยแล้วในปีหน้า
เราหวังว่าเฟอร์รารี่จะกลับมาเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งในอนาคตอันใกล้ และจะต้องกลับไปจุดสูงสุดของทีมอีกครั้งเพื่อมาต่อกลอนกับเมอร์เซเดสนั่นก็คือ "แชมป์โลก"
Getty Images
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]
September 01, 2020 at 04:29AM
https://ift.tt/3lAriMl
ม้า(ไม่)ลำพองอีกต่อไปแล้ว - สยามกีฬา
https://ift.tt/2TVOisZ
Home To Blog
No comments:
Post a Comment