วันอังคาร ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
ฟุตบอลถ้วยสุดท้ายของอังกฤษ จบไปเมื่อวันอาทิตย์ นั่นคือ อาร์เซนอล ครองแชมป์ด้วยการทุบ เชลซี 2-1 ในเกมเอฟเอ คัพ
การฉลองชัยของ “มิเกล อาร์เตต้า ทีม” มีสถิติเกิดขึ้นอย่างมากมาย และทำให้พวกเขาได้ตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปในซีซั่นหน้า
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า หลังจบเกมแชมป์สมัยที่ 14 ของกันเนอร์สแล้ว
ยังมีอีกหนึ่งเกมสำคัญที่แข่งขัน ณ สนามนิว เวมบลีย์
นั่นคือเกมเพลย์ออฟนอกลีก เพื่อหาทีมขึ้นชั้นสู่ลีกอาชีพ ตั๋วใบสุดท้ายจริง ๆ ของฤดูกาลนี้
ฟุตบอลนอกลีก หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า The 2019-20 National League หรือ The Vanarama National League ตัดสินใจยุติการแข่งขันเหมือนกับระบบลีกอาชีพทั้ง 4 ดิวิชั่นไปตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากไวรัสโควิด-19ระบาดในอังกฤษ
จนถึงวันที่ 22 เมษายน มีการโหวตจากสมาชิกสโมสรทั้งหมด 24 ทีม ได้ความว่า “ยุติการแข่งขัน” และคิดคะแนนเฉลี่ยในการตัดสินอนาคตของแต่ละทีม ปรากฏว่าเมื่อคิดออกมาแล้วไม่มีปัญหา อันดับทั้งหมดจบตามคะแนนที่ทำได้
บาร์โรว์ คว้าแชมป์ไปครองหลังจากเตะไป 37 นัด ได้ 70 แต้ม และคะแนนเฉลี่ย 1.89 ได้ตั๋วไปแข่งขันระดับอาชีพลีก ทูในฤดูกาลหน้า
ที่เหลือคืออันดับ 2 ไปจนถึงอันดับ 7 ต้องมาเพลย์ออฟกันเพื่อหาเพียงทีมเดียวเลื่อนขั้นตาม บาร์โรว์
ระบบในการดวลเพลย์ออฟของนอกลีก จะไม่เหมือนกับเพลย์ออฟลีกอาชีพ เพราะจะนำมาทั้งหมดถึง 6 ทีมมาดวลแข้ง โดยให้สิทธิ์ทีมอันดับ 2 ฮาร์โรเกต ทาวน์ กับ อันดับ 3 น็อตต์ส เคาน์ตี้ มายืนรอในรอบรองชนะเลิศ
อีก 4 ทีมต้องมาดวลกันก่อนในรอบควอเตอร์ไฟนอลซึ่ง บอร์แฮม วู้ด ชนะ ฮาลิแฟกซ์ ทาวน์ 2-1 และบาร์เน็ต ชนะเยโอวิล ทาวน์ 2-1
รอบตัดเชือก ฮาร์โรเกต ชนะ บอร์แฮม 1-0 ได้เข้าชิงกับ น็อตต์ส เคาน์ตี้ ที่ปราบ บาร์เน็ต 2-0
หลายคนคงคุ้นชินกับหลายทีม โดยเฉพาะ น็อตต์ส เคาน์ตี้ในฐานะที่ครองแชมป์ “ทีมที่อายุมากที่สุดในโลก” ที่ยังมี“ลมหายใจ” ในระดับลีกอาชีพ
“กางเขนดง” อยู่ยั้งยืนยงที่มีโดว เลน 157 ปี กระทั่งซีซั่นที่แล้วพวกเขาต้องตกชั้นหลุดออกนอกลีกอาชีพเป็นครั้งแรกของสโมสร ที่ไม่ใช่มาจากฟอร์มการเล่น
แต่มาจากสถานะทางการเงินที่ย่ำแย่ถึงขีดสุด
พวกเขาอาจจะมี สเวน โกรัน เอริคส์สัน มาเป็นผู้อำนวยงานสโมสร และมีอดีตนักเตะดาวดังมาคุมทัพหลายคน อาทิ จอห์นเชอริแดน, เควิน โนแลน, แฮร์รี่ คีลล์, พอล อินซ์, เคร็ก ช็อตต์, อลัน สมิธ, สตีฟ เช็ตเทิ่ล รวมไปถึง นีล อาร์ดลี่ย์ แต่เหล่านั้นคืออดีตนักเตะที่ดี แต่ไม่ใช่กุนซือที่เข้าท่าเท่าไหร่นัก
เคยมีข่าวว่า เคราร์ด ปีเก้ ปราการหลังคนดังของสเปน จะเข้ามาซื้อกิจการของสโมสร เหมือนกับที่เขาซื้อทีม คิมนาสติกมันเรซ่า กับ อันดอร์รา เอฟซี แต่สุดท้ายดีลล่ม เพราะ ปีเก้หนีภาษี
“กางเขนดง” ย่ำแย่ขนาดติดค่าจ้างพนักงานเป็นปีๆ และไม่มีเงินซื้อเสื้อแข่ง จนทำให้สภาเมืองน็อตติ้งแฮม เซาธ์ ได้ทําหนังสือไปยัง “ม้าลาย” ยูเวนตุส ตูริน แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี โดยมีความปรารถนาให้ ยูเว่ ช่วยจ่ายค่าเสื้อชุดแข่ง โดยเรียกร้องให้เห็นถึงความดีที่ครั้งหนึ่ง พวกเขาเคยช่วยทีมยักษ์ใหญ่อิตาเลียนในช่วงเริ่มตั้งทีมด้วยการส่งเสื้อใหม่ไปให้เมื่อปี 1903จนเป็นชุดแข่งของยูเว่ในปัจจุบัน
น็อตต์ส เคาน์ตี้ ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ มายังเวมบลีย์ครั้งแรกในรอบ 24 ปี และเป็นข่าวฮือฮาพอตัวในกลุ่มของคนที่ชื่นชอบฟุตบอลแบบเข้าเส้น
แต่สุดท้ายพวกเขาต้องพบกันความพ่ายแพ้
ฮาร์โรเกต กำชัยได้อย่างขาดลอย 3-1 ในเกมที่เวมบลีย์ต้องรีบปรับปรุงสนาม เพราะนัดนี้เกิดขึ้นหลังจากชิงเอฟเอ คัพแค่วันเดียวเท่านั้น
การเดิมพันที่เรียกกันว่า “อันเดอร์ด็อก” ปรากฏว่า ฮาร์โรเกตที่ทีมชุดนี้มี พนักงานร้านสปา, เด็กเสิร์ฟน้ำชา และบางคนว่างงานในตอนนี้ ได้ตั๋วใบสำคัญสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1914
ทีมนี้มี ไซม่อน วีเวอร์ กุนซือวัย 42 ปี คุมทัพ เขาทำงานในตำแหน่งนี้มายาวนานตั้งแต่ปี 2009 โดยใช้สนาม เวเธอร์บี้ โร้ดซึ่งตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น ซีเอ็นจี สเตเดี้ยม ตามสปอนเซอร์ เป็นสนามเหย้า ตั้งอยู่ทางยอร์คเชอร์ เดลส์ ใกล้กับอุทยานแห่งชาติยอร์คเชอร์เดลส์
นับเป็นทีมลำดับที่ 144 ในประวัติศาสตร์บอลอังกฤษที่ได้เข้ามาเล่นในลีกระดับอาชีพ
“เดอะ ซัลไฟต์” ขึ้นมาครั้งนี้ มีอดีตนักเตะที่เชื่อว่าหลายคนยังจดจำได้ นั่นคือ โจนาธาน สตีด อดีตหัวหอกของ แบล็คเบิร์น และซันเดอร์แลนด์ ที่ตะลุยพรีเมียร์ลีก
สตีด วัย 37 ปี เพิ่งย้ายจาก น็อตต์ส เคาน์ตี้ มาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยลงเล่นไป 30 นัด ซัดไป 7 ประตู โดยประสบการณ์บนเวทีลูกหนัง 675 เกม ช่วยให้ทีมก้าวขึ้นสู่ระดับอาชีพได้อย่างยอดเยี่ยม
เท่ากับว่าจบการดวลแข้งคู่นี้ ถือเป็นการปิดฉากอย่างเต็มรูปแบบของบอลอังกฤษ และจะกลับมาอีกครั้งอย่างเป็นทางการตามกำหนดคือ 12 กันยายนนี้
แต่บอลระดับลีกล่าง จะได้เล่นหรือไม่ ยังตอบไม่ได้
อันเนื่องมาจากไม่มีเงินรายได้จากทางไหนเลย
บอลระดับลีกวัน กับ ลีกทู ไม่มีการถ่ายทอดสด และเงินหลักๆ ก็มาจากแฟนบอลเข้าชมในสนาม
แต่ถ้าเตะแบบปิดสนามเตะก็เท่ากับว่าจะเกิดปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะทีมไม่มีเงินเข้ามา
อีกทั้ง “เงินค่าตรวจโรค” ก็ยังมีปัญหาอยู่ว่า จะเอามาจากไหน เพราะที่โหวตให้จบในปีก่อน ก็เพราะไม่มีเงินตรวจโรคทั้งระบบนั่นเอง
ปัญหานี้ เมื่อมองย้อนกลับไปก็คือ จุดที่จะขอบริจาคเงินจากพวกทีมในพรีเมียร์ลีก และเดอะ แชมเปี้ยนชิพ รวมไปถึง รัฐบาลอังกฤษ ที่จะต้องเข้ามาเยียวยา
ไม่อย่างนั้นระบบฟุตบอลที่แข็งแกร่ง และมีชื่อเสียงมาช้านานตั้งแต่ปี 1888
มันจะถึงเวลาที่เกิดปัญหาที่ใหญ่สุดในโลก
บี แหลมสิงห์
August 03, 2020 at 04:00PM
https://ift.tt/39RouFj
แข้งร้านสปา-บริกรชาย 'แฮร์โรเกต'ขึ้นชั้นครั้งประวัติศาสตร์ กับเส้นทางต่อไปของฟุตบอลอังกฤษ - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://ift.tt/2TVOisZ
Home To Blog
No comments:
Post a Comment