การเผชิญหน้าของสหรัฐฯ-จีน ส่งผลกระทบต่อโลกอย่างไร
ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานของสองมหาอำนาจโลก จะทำให้โลกของเราแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็น 2 กลุ่มหรือไม่
สหรัฐฯ และจีน ต่างฝ่ายต่างไม่พอใจกัน
"เราไม่อาจปล่อยให้จีนปู้ยี่ปู้ยำประเทศเราได้อีกต่อไปแล้ว" ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าว
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. สหรัฐฯ ได้สั่งการด่วนให้จีนปิดสถานกงสุลของจีนในเมืองฮิวสตัน
ทำไม
ทั้งสองประเทศต่างตั้งกำแพงภาษีเก็บจากสินค้าของอีกฝ่าย คิดเป็นมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นำไปสู่การทำสงครามการค้า
การต่อสู้นี้บานปลายไปอยางไร
ปธน. ทรัมป์ กล่าวหาจีนว่า ไม่มีความเป็นธรรมในการทำการค้าและขโมยทรัพย์สินทางปัญญา
จีนเชื่อว่าสหรัฐฯ กำลังพยายามฉุดรั้งจีนจากการเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกและกล่าวหา...สหรัฐฯ ว่า กระทำการ "ยั่วยุ"
ความสัมพันธ์นี้สำคัญอย่างไร
จีนและสหรัฐฯ มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกแต่ในการต่อสู้กันครั้งนี้มีอะไรที่มากกว่าเรื่องการค้า
ทั้งสองชาติเห็นไม่ตรงกันเรื่องสิทธิมนุษยชน ข้อกล่าวหาเรื่องจารกรรม และการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงของจีนในฮ่องกง
เมื่อไม่นานนี้ สหรัฐฯ ได้คัดค้านการอ้างกรรมสิทธิในทะเลจีนใต้ของจีนอีกครั้งหนึ่ง
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้โน้มน้าวให้พันธมิตรพยายามต่อต้านอิทธิพลของจีน ขณะที่มิตรประเทศของจีน ก็ยังคงภักดีต่อรัฐบาลจีน
ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายไม่ได้เป็นเช่นนี้
ในทศวรรษ 1970 ปธน.ริชาร์ด นิกสัน ของสหรัฐฯ เดินทางเยือนจีน เช่นเดียวกับเฮนรี คิสซิงเจอร์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่องนี้นำไปสู่การเปิดสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการของทั้งสองประเทศ
การเยือนของ ปธน.นิกสัน เป็นการโดดเดี่ยวสหภาพโซเวียตและทำให้สงครามเย็นเปลี่ยนแปลงรูปแบบไป
นับจากนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ ก็หวังว่า การเกิดขึ้นของการค้าเสรีอินเทอร์เน็ต และการเดินทางระหว่างประเทศ จะทำให้จีนเหมือนกับสหรัฐฯ มากขึ้น
แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายเริ่มห่างเหินกันนับจากนั้น
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
เป็นเรื่องยากที่จะพูดถึงอนาคต มันอาจจะไม่ใช่สงครามเย็น แต่มีความกังวลว่า โลกจะกลับมาแบ่ง
July 28, 2020 at 12:44PM
https://ift.tt/3hHWyGz
การเผชิญหน้าของสหรัฐฯ-จีน ส่งผลกระทบต่อโลกอย่างไร - บีบีซีไทย
https://ift.tt/2TVOisZ
Home To Blog
No comments:
Post a Comment